วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ขนมดอกจอก


   
ขนมดอกจอก





       ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมไทยที่เเสดงให้เห็นถึงความประณีต สวยงาม อ่อนช้อย ที่สื่อออกมาทางทางด้านงานฝีมือการทำขนม ขนมไทยมีหลากหลายชนิด เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ทองม้วน ฝอยทอง บ้าบิ่น เป็นต้น ซึ่งขนมไทยเหล่านี้เป็นที่นิยมมากในสมัยโบราณและบางชนิดยังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เเต่บางชนิดกับหารับประทานยาก เช่น ขนมดอกจอก ซึ่งส่วนมากจะเป็นสินค้าโอท๊อปตามหมู่บ้านต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ เช่น จังหวัดนครราชสีมา ที่มีการผลิตขนมดอกจอกเยอะมากถือเป็นสินค้าโอท็อปอีกอย่างของจังหวัดก็ว่าได้ เเละยังสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเเม่บ้านหลังจากว่างจากงานครัวเรือนได้อีกด้วย ส่วนแถวกรุงเทพมหานครก็ยังพอหาทานได้บ้าง และที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่มีชาวบ้านบางส่วนยังให้ความสนใจในขนมดอกจอกเเละทำการผลิดขายเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้เรายังจะได้ดูวิธีเเละขั้นตอนการผลิตขนมดอกจอกได้ด้วย


          ขนมดอกจอก เป็นขนมโบราณ เป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยก่อน แต่ในปัจจุบันเริ่มจะหาทานยาก เด็ก ๆ สมัยนี้อาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนัก เนื่องจากไม่ค่อยเป็นที่นิยมจากเด็กรุ่นใหม่ ขนมดอกจอกเป็นขนมที่มีรูปทรงคล้ายดอกจอกที่มีเเหล่งกำเนิดอยุ่ในน้ำ รูปทรงสวยงามน่ารับประทาน เเต่เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้น้ำมันพืชปริมาณมากในการทอดจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมกับคนสมัยนี้ที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เพราะอาจทำให้มีคอลเรตเตอรอลสูงเเละทำให้อ้วนได้
ขนมดอกจอก ในสมัยก่อนเป็นที่นิยมมากจะเป็นหนึ่งในขนมที่จจัดขึ้นในงานเเละพิธีการสำคัญต่างๆเช่นงานบวช งานเเต่งงาน งานขึ่นบ้านใหม่ เป็นต้น ไม่เเพ้ขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทองที่เป็นที่นิยมทั่งในอดีตและปัจจุบัน 


ขั้นตอนเละวิธีการทำ ขนมดอกจอก 


ขนมดอกจอกมีขั้นตอนเเละวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากเเละซับซ้อน ถือเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งทำทานเองได้ที่บ้าน เเค่มีวัสดุ เช่น เเม่พิมพ์ลายดอกจอกที่หาซื้อได้จากร้านขายของในตลาดสดทั่วไปราคาไม่เเพง หรือเเม้เเต่วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายเช่นกัน ส่วนประกอบในการทำขนมดอกจอก ประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า, เเป้งมัน; แป้งมัน,ไข่เเดง , น้ำสะอาด, กะทิ, น้ำตาลทราย, เกลือป่น, งาขาว ซึ่งส่วนผสมสามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด



 ขั้นตอนการทำขนมดอกจอก

1. ผสมเเป้งสาลีที่ร่อนเเล้ว เเป้งมัน เเละเเป้งข้าวเจ้า พร้อมกับเทน้ำสะอาดในปริมาณที่พอเหมาะ ใส่เกลือ น้ำตาลทรายเเละไข่เเดง นวดให้ส่วนประกอบเข้ากันเเละเเป้งเกิดความนิ่ม เเล้วจึงใส่น้ำปูนใสกับน้ำมันพืชตามลงไปนวดให้เข้ากันอีกครั่งแล้วจึงใส่งาดำลงไป เเล้วพักทิ่งไว้ครึ่งชั่วโมง


((ขออนุญาติยื่มรูปภาพจากblogปูขาเก เซมารู))

2. เตรีมกะทะ เทน้ำมันพืชลงไปในปริมาณมากรอจนน้ำมันพืชร้อนได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ (ร้อนจัด) เเล้วนำพิมพ์ที่เตรี้ยมไว้มาจุ่มในน้ำมันพืชที่ร้อนจัด (ต้องมาการเตรียมผ้าที่สะอาดขนาดพอเหมาะพับซ้อนกันไว้เช็ดก้นพิมพ์)


((ขออนุญาติยื่มรูปภาพจากblogปูขาเก เซมารู))


3. นำเเม่พิมพ์ที่ร้อนจัดมาจุ่มลงในเเป้งที่เรานวดไว้ปริมาณ 3/4 ของแม่พิมพ์ แล้วนำไปจุ่มลงในกะทะที่มีน้ำมันเดือดรออยู่ กดแม่พิมพ์ให้อยุ่ในน้ำมันสักครู่ จึงดึงพิมพ์ออกจากแป้ง ทอดให้เเป้งเหลืองสวยงาม (ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความประณีดเเละใจเย็นเป็นอย่างมากเพื่อความสวยงามของรูปทรงขนมดอกจอก)





((ขออนุญาติยื่มรูปภาพจากblogปูขาเก เซมารู))



     ขนมดอกจอก เป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีประวัติอยุ่คู่กับคนไทยมายาวนาน เเละเป็นขนมที่มีขั้นตอนการทำไม่อยากทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเเละซับซ้อน วัตถุดิบในการทำขนมดอกจอกก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและราคาไม่เเพง ขนมดอกจอกเป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่เหมาจะะอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับคนไทยไปนานๆ 

      สุดท้ายผู้เขียนก็หวังว่าคนรุ่นใหม่คงจะไม่ลืมไปว่าเรายังมีขนมไทยอีกหลากหลายชนิดที่มีทั่งความอร่อย สวยงาม ความประณีตในการทำ เเละราคาไม่เเพงหารับประทานได้ง่าย ไม่เเพ้ขนมหรู ราคาเเพงในห้างสรรพสินค้าเลย เเละที่สำคัญเราเป็นคนไทย คนรุ่นใหม่เราก็ควรอนุรักษ์ของๆไทยไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ขนม หรือการใช้ชีวิตเเบบพอเพียง เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เอาเอาเป็นเเบบอย่างต่อไป







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น